วันเสาร์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ว่าด้วยเรื่องรากผัก

…ญึ่ปุ่นได้กำหนดหนังสือประเภทคลาสสิกของจีน 4 เล่มให้เป็นหนังสือที่จำเป็นต้องศึกษาให้ถ่องแท้ไว้ในการฝึกอบรมพนักงานของตน คือ
1. สามก๊ก
2. ซุนวู
3. ไซอิ๋ว
4. คัมภีร์รากผัก

…หนังสือแต่ละเล่มผู้อ่านจะได้รับความรู้แง่คิดในด้านที่ต่างกัน คือ สามก๊กในด้านของการปฏิบัติ, ซุนวูในด้านของกลยุทธ์, ไซอิ๋วในด้านของจินตนาการ และ คัมภีร์รากผักในด้านของปรัชญา …

…ผู้ประพันธ์คัมภีร์รากผักคือ หง ยิ่งหมิง มีชีวิตอยู่ในสมัยราชวงศ์หมิง และได้รับการแปลเป็นไทยโดยคุณ วิทยา โสภณดิเรกรัตน์ คัมภีร์รากผักได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในวงการบริหารจัดการของญี่ปุ่นถึง ขนาดมีคำกล่าวที่ว่า “ตำราบริหารธุรกิจ นั้นยังไม่อ่านก็ได้ แต่ ‘คัมภีร์รากผัก’ นั้นไม่อ่านไม่ได้เลย” เหมาเจ๋อตุงเคยกล่าวว่า “คนที่เคี้ยวกินรากผักได้ ย่อมสามารถทำงานอะไรก็ได้”

โบราณท่านว่า “แท้จริงแล้วรากผักมีรสหอมหวาน ลองปล่อยใจดื่มด่ำย่อมได้รสชาติที่แท้จริง” วันนี้เราลองมาทานรากผักกันดูนะครับ

“รักษาคุณธรรม ไม่พึ่งอำนาจวาสนา”
คนที่เอาแต่พึ่งอำนาจวาสนาสุดท้ายแล้วจะต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย เพราะุเหตุด้วยความเสื่อมแห่งอำนาจวาสนานั่นเอง

“ความฉลาดมากเล่ห์ มิสู้ความสัตย์ซื่อตรง”
คนฉลาดแต่มากด้วยเล่ห์ไม่ยั่งยืน เกิดเป็นคนควรมีใจสัตย์ซื่อ โอบอ้อมอารี ตรงไปตรงมา

“จิตใจต้องเปิดเผย ปัญญาความสามารถต้องปิดบัง”
ใช้ปัญญาความสามารถอย่างมีสติ มิเช่นนั้นภัยอาจถึงตัว

“ไม่แปดเปื้อนความโสโครก ไม่ยอมใช้เล่ห์เพทุบาย”
ท่ามกลางการใช่เล่ห์เหลี่ยมกลโกง คนที่ยังคงความดีของตัวเองไว้ไม่ยอมเปลี่ยนไปตามสภาพแวดล้อมถือว่าเป็นคนที่สูงส่งยิ่ง

“รู้จักฟังคำระรายหู ฝึกตนด้วยเรื่องไม่สบายใจ”
เรื่องไม่สบายใจและคำระคายหูถือเป็นเครื่องขัดเกลาจิตใจชั้นดี เพื่อยกระดับคุณธรรมในตัวเราให้สูงขึ้น

“ความสงบสุขสันต์ ธรรมชาติกับมนุษย์หมายปอง”
ทะเลไม่เคยหยุดนิ่ง จิตใจคนเราก็เช่นกันมิอาจไร้ความสุขสบายได้แม้แต่วันเดียว

“รสจืดคือรสแท้ มนุษย์ที่แท้คือคนสามัญ”
คนดีที่แท้นั้น คือคนที่ปฏิบัติตนเยี่ยงคนธรรมดาสามัญ

“ยามว่างอย่าเย็นใจ ยามยุ่งอย่าร้อนใจ”
ยามว่างควรกระตือรือร้นขวนขวาย ยามยุ่งควรหัดรู้จักทำความสงบและปล่อยวาง

“นั่งสมาธิดูใจ ปรากฏทั้งความสว่างและความฟุ้งซ่าน”
นั่งสมาธิส่องดูใจของตัวเอง เพื่อความเข้าใจในสัจธรรมชีวิตและขจัดความฟุ้งซ่าน

“เมื่อสมหวังต้องรู้พอ เมื่อผิดหวังต้องไม่ท้อ”
เมื่อได้รับสมหวังตามที่ต้องการแล้วต้องรู้จักพอ แต่เมื่อเจอกับความผิดหวังก็ไม่ควรเลิกล้มความพยายามง่ายๆ

"จิตโอบอ้อมอารี คุณความดียืนยาว"
คนเราควรมีจิตใจโอบอ้อมอารีต่อผู้อื่น และควรสะสมคุณความดีเอาไว้ให้มาก ๆ เพราะตายแล้วก็ยังมีนระลึกถึงมิเสื่อมคลาย

"เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ รู้จักเพียงพอ"
แม้ยามมีหรือไม่มีก็ตามต้องรู้จักเผื่อแผ่แบ่งปันให้คนอื่นเสมอ

"สำเร็จได้เพราะไม่ใฝ่ต่ำ สู่แดนธรรมเพราะลดกิเลส"
คนเรกหากสามารถละทิ้งจิตใจใฝ่ต่ำได้ก็ถือว่าเป็นผู้ประสบความสำเร็จแล้ว และหากสามารถลดละความผูกพันที่มีต่อลภาพยศสรรเสริญได้ก็นับได้ว่าได้เข้าสู แดนธรรมอันศักดิ์สิทธิ์แล้ว

"ใจกว้างคบเพื่อน สุจริตใจคบคน"
การคบเพื่อนต้องมีใจนักเลงไม่กลัวเสียเปรียบ คนเราต้องรู้จักคงความบริสุทธิใจไว้บ้าง

"เวลาได้รับไม่นำหน้า เวลาเสียสละไม่รั้งหลัง"
เวลาได้รับความดีความชอบก็ไม่ควรแย่งแซงหน้าผู้อื่น เมื่อจำเป็นต้องเสียสละก็อย่ามัวช้าอยู่หลังผู้อื่น และเมื่อได้รับผลประโยชน์ตามควรแล้วให้รู้จักพอ

"ความอดกลั้นคือศิลปะชั้นสูง ดีต่อเขาคือดีต่อตนเอง"
การรู้จักถอยหลีกสักก้าวย่อมนำมาซึ่งจังหวะก้าวหน้าที่ดีกว่า การเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อผู้อื่นคือารวางรากฐานอันนำกลับมาซึ่งประโยชน์สู่ตนเอง คุยโวทำให้ผลงานด้อยค่า สำนึกบาปช่วยลดทอนความผิด
การคุยโวโอ้อวดจะทำให้ผลงานสร้างมาหมดคุณค่าลงอย่างรวดเร็ว การสำนึกบาปกลับเนื้อกลับตัวได้ก็เปรียบเสมือนโจรกลับใจ

"เรื่องดีไม่เอาใส่ตัวผู้เดียว เรื่องชั่วไม่ผลักให้ผู้อื่น"
เรื่องความดีความชอบนั้นไม่ควรครอบครองเอาไว้แต่ผู้เดียว ควรรู้จักยกย่องคนอื่นบ้าง ส่วนเรื่องอัปยศอดสูก็ไม่ควรผลักให้ผู้อื่นทั้งหมด ควรรู้จักรับเองบ้ง

"ความดีความชอบไม่ขอให้ปรี่ล้น เป็นคนต้องรู้จักพอ"
กระทำสิ่งใดอย่าหวังเอาแต่ได้ ควรมีใจเอื้อเฟื้อเผือแผ่ต่อผู้อื่น จะได้ไม่นำภัยมาสู่ตนในภายหลัง

เนื้อหาภายในเล

- หลงอำนาจชั่วเวลาหนึ่ง จักเศร้าสลดไปชั่วนิรันดร์

- นิทานปาท่องโก๋

- ความในใจควรเปิด ความปราดเปรื่องพึงซ่อน

- คนขายสีกับคนขายวัว

- ยาดีย่อมขมปาก คำเตือนมักขัดหู

- เรื่องของผีเสื้อ

- จางจืดจึ่งรู้รสแท้ สามัญจึ่งเป็นยอดคน

- ลิงสวมหมวก

- หนทางแคบควรถอยหนึ่งก้าว อาหารดีควรแบ่งสามส่วน

- ปากสองปาก

- คบเพื่อนควรมีมิตรจิต เป็นคนพึงต้องจริงใจ

- สร้างสะพานให้ดี

- สะอาดเกิดจากสกปรก สว่างเกิดจากมืดมน

- จักจั่นกับหิ่งห้อย

- คนมั่งมีควรทำทานให้มาก ผู้ฉลาดพึงละการโอ้อวด

- ตาเฒ่าหมู่บ้านเผิง

- คนชั่วเล่าเรียน ยิ่งเสริมความชั่ว

- ซุนปินกับพังจวน

- อ่านบทประพันธ์ดีเยี่ยมในใจตน ฟังดนตรีเสนาะโสตจริงแท้

- สุภาษิตของหนอนขาเดียว

- คนตายชื่อยัง เสือตายหนังอยู่

- ความฝันของมหาเศรษฐี

- ถ่อมตัวจักได้ เย่อหยิ่งจักเสีย

- โอ่งเอียงกับกระบอกเงิน

- ป้องกันก่อนฝนตก เตรียมไว้ไม่มีภัย

- กันไว้ดีกว่าแก้

- ลมอุ่นละลายความหนาวเย็น ความอ่อนโยนละลายน้ำแข็ง

- หลิวควนเลี้ยงแขก

- บทประพันธ์ดีเยี่ยมไม่พิสดาร คุณธรรมสุดยอดคือธรรมชาติ

- จิตรกรวาดวงกลม

- ทำสิ่งใดควรเว้นที่ว่าง แค่ห้าส่วนก็จะไม่เสียใจ

- เป่าสื้อหัวเราะ

- มองที่เรื่องใหญ่ ทำที่เรื่องเล็ก

- รังมดเล็ก ๆ

- ไม่โอ้อวดความสวยงามและความบริสุทธิ์ ก็ไม่ขายหน้าในความอัปลักษณ์สกปรก

- สี่อิ๋วล้างหู

- ประจบประแจงยกยอปอปั้น คือปกติวิสัยของมนุษย์

- ผู้พึ่งเมิ่งฉางจุน

- ความวิเศษแห่งการเนรมิตของธรรมชาติ ยากที่สติปัญญาความสามารถใดจะทัดเทียม

- ชาวประมงจับปลา

- อย่าหมิ่นตนเองอย่างเบาปัญญา อย่าโอ้อวดเย่อหยิ่งทะนงตน

- คุณชายบ้านลู่กับขอทาน

- ลมอุ่นให้ชีวิตแก่สรรพสิ่ง หิมะไม่เอื้ออาทรผู้ใด

- ลมใบไม้ผลิกับหิมะน้ำแข็ง

- ความดีเติบโตเงียบ ๆ ความชั่วสูญหายนานช้า

- เจ้าสาวสองคน

- คุณธรรมความประพฤติธรรมดาสามัญ คือรากฐานแห่งสันติสุข

- นายอำเภอลากเรือ

- ทองคำต้องหลอมร้อยครั้ง ลูกธนูอย่ายิงง่ายนัก

- ทองแท้กับหน้าไม้พันชั่ง

- ซ่อนความสามารถเก็บสติปัญญา เพื่อแบกภาระหนักฝ่าทางไกล

- บังทองคนอัปลักษณ์

- มุทะลุมักเสียการ สุขุมจักนำโชค

- อู๋กังกับนกแก้วน้อย

- เคร่งครัดจักเสียคนดี หย่อนยานจักได้เพื่อนชั่ว

- คนอย่างเฝิงฮวน

- อ่านหนังสือควรอ่านจนดื่มด่ำ สังเกตสรรพสิ่งควรทำจนซาบซึ้ง

- ลูกเขยโง่ซื้อห่าน

- เข้มข้นทนทานมิเท่าอ่อนจาง ความสำเร็จจักบังเกิดในบั้นปลาย

- ของเล่นของเสี่ยวจู้จื่อ

- โลกกว้างหรือแคบ อุปโลกน์ขึ้นเอง

- สามีภรรยาผู้แปลกหน้า

- ความหรรษามีคุณค่าที่เป็นธรรมชาติทิวทัศมิได้ดีที่มีมากหรืออยู่ไกล

- หนึ่งบุปผาคือหนึ่งวิมาน

- ใจไร้ความปรารถนาฟ้าดินก็สงบ มีหนังสือและพิษในมือก็คือผู้วิเศษ

- ฮุ่นตุ้นตายแล้ว

- ชีวิตดั่งหนึ่งฟองอากาศ ไยต้องชิงชื่อเสียงลาภยศ

- รบกันบนยอดเขาหอยทาก

- เลี้ยงต้นไม้ปลูกต้นไผ่ ใจไร้ซึ่งตัวเรา

- ประวัติซินแสอู่หลิ่ว

- ได้มรรคไร้พันธนาการ จะเงียบหรืออึกทึกล้วนไม่เกี่ยว

- เทวดาผู้วิเศษในโลกมนุษย์

- เคลื่อนหรือนิ่งแต่พอเหมาะ จะเข้าหรือออกก็ไร้สิ่งกีดขวาง

- พิณไร้สายของเถาหยวนหมิง

- นอนเมฆชมเดือน ตัดกิเลสพ้นโลก

- จีคังเก็บสมุนไพร

- โลกในเมฆหมอก ฟ้าดินในความเงียบ

- กวีบนหลังลา

- ความสะพรั่งของฤดูใบไม้ผลิ มิสู้ความสดชื่นในฤดูใบไม้ร่วง

- ตู้ฝู่ใหลหลง

- ภาพลักษณ์เกิดจากใจ ดับหายไปตามจิต

- ผีเงา

- อารมณ์แห่งความวิตกยินดีจะชังหรือชอบ ล้วนเพราะเห็นคล้อย

- ไปตามรูปลักษณ์

- ทัศนะของเจ้าของโรงเตี๊ยม

- คนมั่งมีมากทุกข์ ผู้สูงศักดิ์มากภัย

- เศรษฐีกับผู้สูงศักดิ์

- สรรพสิ่งไร้ชีวิตชีวาเพราะมนุษย์ พลังชีวิตอยู่ในธรรมชาติ

- แสงดาวที่ร่วงลงมาจากท้องฟ้า

- สัตว์ร้ายปราบง่าย ใจคนสยบยาก

- วาระสุดท้ายของฮ่องเต้

- ได้ดีหรือตกต่ำไม่ตระหนก จะอยู่หรือจะไปไม่กังวล

- เทวดาในจอกเหล้า

- ทะเลทุกข์เวิ้งว้าง หันหลังกลับคือฝั่ง

- แมลงเม่าโฉบไฟ

- ไม่อวดฝีมือ ถือความเรียบง่าย

- ฝักถั่วไต้แสงอาทิตย์

- ผู้มีปัญญาเฉียบแหลม ย่อมรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า

- วาจาของก่วนจ้ง

- ชนะแพ้หรือสวยงามอัปลักษณ์ คือภาพลวงชั่วเวลาหนึ่ง

- บนเวทีและนอกเวที

- ธรรมชาติบริสุทธิ์ย่อมปรารถนาแต่ความเรียบง่าย แม้จะธรรมดาสามัญ ก็ดังหนึ่งผู้วิเศษ

- เต่าเทวดาสามพันปี

- ยามเราประสานกับผู้อื่นเป็นหนึ่งเดียว เมฆจะหยุดลอยนกจะลงมาเป็นเพื่อน

- ซูตงพอเปลือยเท้า

- แม้หวังจะเก่งกล้า จงฝนทั่งให้เป็นเข็ม

- หลวงจีนจนกับหลวงจีนรวย

- ใบไม้ร่วงแอบบ่มเพาะหน่ออ่อน พลังชีวิตซ่อนอยู่ในความร่วงโรย

- แผ่นดินแห่งชีวิต

- หลังฝนภูเขาเขียวสด กลางดึกเสียงระฆังฟังชัด

- ชะล้างฝุ่นละอองในดวงใจให้สะอาด

- อย่าเหนื่อยกายเหนื่อยใจไร้ประโยชน์ พึงรื่นเริงบันเทิงใจตามสมควร

- คุณชายของเศรษฐีจาง

- มองความราบรื่นและอุปสรรคไม่ต่างกัน ก็จักลืมทั้งความดีใจและเสียใจขึ้น ๆ ลง ๆ

- เดือนเต็มแล้วจักแหว่ง สมหวังแล้วพึงตระหนัก

- ชั่วชีวิตหนึ่งของสาวไห่ถัง

- ปล่อยกายตามธรรมชาติ ไม่ข้องแวะในโลกวิสัย

- เพลงเศร้าของนกทะเล

- จับจุดสำคัญ ตึงหย่อนตามสบาย

- ไปดูเขาเชิดหุ่นกันเถิด

ไม่มีความคิดเห็น: